1. แอปเปิล
แอปเปิลเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และเกลือแร่ที่ดีต่อร่างกาย ด้วยเหตุผลนี้แอปเปิลจึงเป็นผลไม้สุดเริ่ดที่ช่วยลดน้ำหนัก เพราะไฟเบอร์จะช่วยให้คุณอิ่ม ไม่กินจุบจิบ ระบบการขับถ่ายก็จะดีเลิศ แถมยังมีวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งได้อีกต่างหาก
ถ้าอยากลดน้ำหนักอย่างจริงจังให้รับประทานแอปเปิลเขียว เพราะมีน้ำตาลน้อยกว่าแอปเปิลอื่นๆ นะ
2. ลูกแพร์
ถ้าพูดถึงผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงปรี๊ด ลูกแพร์ก็คงติดอันดับผลไม้ที่ว่านั้นด้วย และอาจจะมีภาษีดีกว่านิดนึงตรงที่มีโพแทสเซียมช่วยบำรุงหัวใจ และสุขภาพร่างกายโดยรวมของเราได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า กินลูกแพร์ลูกเดียวได้ทั้งความอิ่มท้อง รวมทั้งช่วยบำรุงหัวใจไปด้วยในตัวเลยล่ะ
3. กล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีทั้งไฟเบอร์ โพแทสเซียม และวิตามินบี 6 ที่สูงมาก เฉลี่ยแล้วกล้วยน้ำว้า 1 ลูก จะให้วิตามินบีกับร่างกายได้ถึง 30% เทียบเท่าปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวันเลยทีเดียว แล้ววิตามินบี 6 ดียังไงล่ะ ? จุดนี้บอกได้เลยว่า วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มนาน ดังนั้นใครที่กำลังไดเอตอยู่ กล้วยน้ำว้าช่วยคุณได้เยอะเลยล่ะ
แต่ไม่ควรทานมากจนเกินไปล่ะ เพราะกล้วยน้ำว้า 1 ลูกให้พลังงานถึง 60 แคลอรี นี่ถ้ากินไป 3 ลูก...3 คูณ 60...ก็จะได้ 180 แคลอรี!
4. บลูเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อย่างบลูเบอร์รี่ลูกเล็กๆ ก็มีอานุภาพในการบำรุงดูแลร่างกายเราได้มากมาย เริ่มตั้งแต่ช่วยรักษาระดับอินซูลิน ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคอ้วน รวมถึงลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย นอกจากนี้ผลวิจัยล่าสุดยังพิสูจน์มาแล้วด้วยว่า บลูเบอร์รี่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันในร่างกายได้ผลชะงัดด้วย
5. สตรอว์เบอร์รี่
สตรอว์เบอร์รี่มีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนอะดิโปเนกติน (Adiponectin) และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จัดการไขมันสะสมในร่างกายได้อยู่หมัด จึงทำให้สตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ตัวเด็ดเรื่องการลดน้ำหนักที่ไม่ควรพลาดด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ สตรอว์เบอร์รี่ยังมีสารต่อต้านอาการอักเสบ สามารถช่วยซ่อมแซมรักษาเนื้อเยื่อที่สึกหรอ และอักเสบในร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ป้องกันโรคหวัดได้อีกด้วย
6. กีวี
สำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวานของกีวี อาจจะยังไม่รู้ว่า กีวีก็ถูกจัดให้เป็นผลไม้ช่วยลดน้ำหนักเหมือนกัน เพราะนอกจากกีวีจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์แล้ว เมล็ดสีดำเล็กๆ ของกีวียังเป็นไฟเบอร์ชนิดที่ไม่สามารถละลายได้ จึงช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร และทำให้คุณอิ่มได้นานขึ้น หมดปัญหาเรื่องกินจุบกินจิบอีกต่อไป
7. เกรปฟรุต
เกรปฟรุตหนึ่งลูกให้พลังงานเพียงแค่ 74 กิโลแคลอรี่ แต่มีไฟเบอร์ในจำนวนที่มากกว่านั้นหลายเท่าตัว แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว ว่าเกรปฟรุตเป็นผลไม้เหมาะจะกินเพื่อลดน้ำหนักสุดๆ โดยเฉพาะหากกินเกรปฟรุตครึ่งลูกก่อนมื้อเช้าทุกวัน หุ่นสวยกระชับสุดเป๊ะก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมจ้า
8. ลูกพีช
นอกจากจะมีไฟเบอร์สูงมากแล้ว ลูกพีชยังมาพร้อมโพแทสเซียม และวิตามินอีกสารพัดชนิดที่ดีต่อร่างกาย แถมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึงไปด้วยในตัว จัดเป็นผลไม้ลดความอ้วน และผลไม้เพื่อผิวสวยที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว
9. มะพร้าว
แม้มะพร้าวจะมีรสชาติหวานเจี๊ยบ แต่ความหวานนั้นก็เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารอาหาร และวิตามินที่เป็นประโยชน์กับร่างกายเราหลายชนิด โดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึมได้ถึง 30% เผาผลาญไขมันในตับได้เยอะขึ้น ส่งผลให้คุณลดน้ำหนักได้ผลเร็วขึ้นอีกต่างหาก
นอกจากนี้ ไขมันอิ่มตัวที่อยู่ในน้ำมันมะพร้าว เนื้อมะพร้าว หรือกะทิจากมะพร้าว ก็เป็นกรดไขมันที่อิ่มตัวโดยสมบูรณ์ โมเลกุลจึงแตกต่างจากไขมันอิ่มตัวในอาหารต้องห้ามของคนไดเอต
10. ทับทิม
ทับทิมเป็นสุดยอดผลไม้ ที่ช่วยในเรื่องลดน้ำหนัก และล้างสารพิษในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะสารโพลีฟีนอล ตัวต้านสารอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งในทับทิม ที่ไปช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานดีขึ้น ลดไขมันในเลือด ลดไขมันเลว LDL ล้างสารพิษในเลือด และช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนสะดวก เปล่งประกายผิวพรรณสดใสไปพร้อมๆ กับกระชับสัดส่วนในคราวเดียวกัน
ด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงลิ่ว ไธอามีน และโฟเลทในผลไม้ลูกเล็กๆ อย่างส้ม ทำให้ส้มเป็นผลไม้ที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญได้ดีอีกชนิดหนึ่ง อีกทั้งเนื้อส้มยังให้ไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่ายได้ถึง 5 กรัม ต่อส้มสดปริมาณ 1 ถ้วยตวง ในขณะที่ให้พลังงานกับร่างกายเพียงแค่ 85 กิโลแคลอรี่เท่านั้น
แต่ทั้งนี้ อย่าสับสนไปกินน้ำส้มคั้นนะ เพราะน้ำส้มคั้นจะให้สารอาหารที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเป็นสารอาหารที่ค่อนข้างน้อยเสียด้วย อีกทั้งน้ำส้มยังทำให้คุณพลาดโอกาสได้รับไฟเบอร์จากเนื้อส้มอีกด้วย
12. มะม่วง
หลายคนไม่ยอมกินมะม่วงเลย เพราะกลัวว่าแป้ง และน้ำตาลในมะม่วงจะทำให้อ้วนขึ้น แต่จริงๆ แล้วมะม่วง หรือแม้แต่มะม่วงสุก ไม่ได้ให้แค่น้ำตาล และรสชาติหวานลิ้นเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ไฟเบอร์ 3 กรัมต่อปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน และให้พลังงานเพียงแค่ 130 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 ผลเท่านั้นเอง ดังนั้นกินมะม่วงในปริมาณที่พอเหมาะ ก็ไม่ได้ทำให้น้ำหนักคุณขึ้นแน่นอน
13. มะละกอ
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามะละกอเป็นผลไม้ที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย แต่จริงๆ แล้วมะละกอมีดีกว่านั้นเยอะ เพราะนอกจากปริมาณไฟเบอร์ที่มีมากมายมหาศาล มะละกอยังมีเอนไซม์ช่วยย่อย ทำให้อาหารที่เรากินเข้าไปถูกย่อย และดูดซึมได้ง่าย อีกทั้งมะละกอยังมีฟลาโวนอยด์ แคโรทีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นศาสตราวุธชั้นดี เพื่อต่อสู้กับไขมัน และส่วนเกินของเราอีกด้วย
สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้ไม่ยาก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว วิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย
15. แตงโม
แตงโมลูกโต ๆ รสหวาน ๆ ไม่ได้ทำให้คุณอ้วนแต่ประการใด เพราะแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรีเท่านั้น แถมยังให้ไขมันน้อยนิด และยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ของส่วนประกอบทั้งหมด ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวเลยว่า แตงโม จะทำให้คุณสาว ๆ อ้วนได้ ตรงกันข้าม หากรับประทานแตงโมแทนอาหารมื้อเย็นหนัก ๆ ก็ช่วยลดความอ้วนได้ด้วย แต่ควรทานอย่างพอดี ไม่มากไป ไม่เช่นนั้นท้องไส้จะปั่นป่วนเอาได้ แถมยังต้องเข้าห้องน้ำปัสสาวะบ่อย ๆ ด้วย
16. แก้วมังกร
แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ง่ายๆ ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น เพราะแก้วมังกรมีกากใยสูงและแคลอรีต่ำ แถมยังมีรสหวานอร่อย หลายๆ คน จึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็น หรือทานรวมกับผักสลัดอื่นๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องห่วงว่าจะความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง
และนอกจากลดน้ำหนักแล้ว ผลพลอยได้จากแก้วมังกรที่คุณสาว ๆ ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันก็คือ แก้วมังกรเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ดังนั้น จึงช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัวด้วย
17. อะโวคาโด
หลายคนอาจไม่รู้จักผลไม้ชนิดนี้หรืออาจคิดว่ามันเป็นผัก อะโวคาโด คือผลไม้ชนิดหนึ่ง เป็นที่นิยมในแถบทวีปอเมริกาและยุโรป เพราะมันมีสารอาหารสูงและหลากหลายมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่บางคนอาจไม่ชอบ เพราะรสไม่หวาน แถมมีไขมันสูง กินแล้วอาจอ้วนได้ แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิด กรดไขมันในอะโวคาโดเป็ดกรดไขมันที่ดี คืออะโวคาโดมันมีกรดไมมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวถึง 70 เปอร์เซ็นต์ มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันร้ายในหลอดเลือด ทำให้โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และหัวใจวายลดลงได้ด้วยนะคะ